Excel Forum

กรณีหาอายุงาน จะต้องบวกเพิ่มเข้าไปอีก 1 วันนะครับ ดังนั้น ถ้าใช้ DATEDIF ต้องเขียนสูตร ดังนี้
=DATEDIF(start_date, finish_date+1, return_type)

ลองดูตัวอย่างในไฟล์แนบครับ
ปล. การคีย์วันที่ ต้องคีย์เป็นแบบปี ค.ศ.เท่านั้นครับ

วิธีง่ายๆ อาจจะทำการขยับส่วนที่เป็นชื่อห้อง ออกมาอีกคอลัมน์หนึ่งก่อน ดังรูป - จากนั้น เลือกช่วง A1:A10
- กด Ctrl+G เลือก Spacial...
- ติ๊กเลือก Blank แล้วกด OK
- กดปุ่มเครื่องหมาย =
- กดปุ่ม ลูกศรขึ้น 1 ครั้ง
- กดปุ่ม Ctrl+Enter

รบกวนถาม สูตรค่ะ ช่อง A2 เป้นค่า ตัวเลข (ระหว่าง 1-59) ช่อง B2 ต้องการเขียนสูตร ว่า ถ้่า A2 น้อยว่าหรือเท่ากับ 20 ให้เติม 1, ถ้ามากกว่า 20 ให้เติม 0 ช่อง C2 ต้องการเขียนสูตร ว่า ถ้่า A2 มากกว่า 20 ให้เติม 1, ถ้าน้อยกว่า 20 ให้เติม 0 ขอบคุณค่ะ B2 =IF(A2<=20,1,0) ส่วน C2 เงื่อนไขไม่ครบครับ แล้วถ้า A2...

จากไฟล์ตัวอย่างแรก ข้อมูลในชีท "รายการสินค้า" ผมเอาข้อมูลมาวางต่อกันแบบฐานข้อมูล (เรียงข้อมูลตามประเภทสินค้า) ส่วนการดึงรายชื่อสินค้าแต่ละประเภทตามเงื่อนไขที่เลือก เพื่อให้มาแสดงในชีท "โปร1.57" นั้น ผมใช้ OFFSET ดังตัวอย่างในไฟล์แนบ ส่วนอีกไฟล์ที่ถามมาใหม่นั้น จากที่ดูคร่าวๆ ก็ใช...

เช่น 52890709__54072747 ให้เป็น IPD 52523396_52030687 ให้เป็น IPD 51211312_____u1l ให้เป็น OPD 1100400102282_48199955 ให้เป็น OPD http://sia09-dspr01:90/OPD/2/976/52720223 ให้เป็น OPD แบบนี้ค่ะ ไม่ทราบว่าจะใช้สูตรอะไรได้บ้างคะ ขอบคุณอาจารย์มากเลยค่ะ ไม่ทราบว่าจะใช้สูตรอะไรในการหาค่ะ :D เงื่อนไขดูได...

ต้องการดึงข้อความลง หรือต้องการเอาผลรวมมาใส่ครับ?

เข้าใจการใช้เครื่องหมาย $ มั๊ยครับ?
A1
$A$1
$A1
A$1

หากต้องการให้ผลลัพธ์ มาเรียงแถวต่อเนื่องกัน ลองใช้วิธีนี้ครับ ขั้นตอนที่ 1 ที่ H2 พิมพ์สูตร =IF(COUNTA(B2:G2)>0,ROW()-1) แล้วคัดลอกสูตรลงมาถึง H13 ขั้นตอนที่ 2 ที่ I2 พิมพ์สูตร =IF(ROWS(A$2:A2)>COUNT(H$2:H$13),"",SMALL(H$2:H$13,ROWS(A$2:A2))) แล้วคัดลอกสูตรลงมาถึง I13 ขั้นตอนที่ 3 ที่ J2 พ...

ถ้าเป็นการ Save ครั้งแรก เวลาตั้งชื่อไฟล์ ให้คลิกที่ คำว่า Tools (อยู่ข้างๆ ปุ่ม Save ปุ่ม Cancel) แล้วเข้าไปตั้งค่าใน General options..
แต่ถ้าเป็นไฟล์เก่า ต้องเลือก Save as.. จึงจะเข้าไปตั้งค่าดังวิธีข้างบนได้

มาถูกทางแล้วครับ คุณควรใช้ OFFSET ดึงข้อมูลตามเงื่อนไขที่ระบุ มาพักไว้ในช่วงใดช่วงหนึ่งก่อน แล้วค่อยสร้างกราฟจากช่วงข้อมูลนั้น (ไม่ใช่เอาสูตร OFFSET มาใส่ในกราฟโดยตรง) เมื่อเงื่อนไขเปลี่ยน ข้อมูลในช่วงดังกล่าวก็จะเปลี่ยน กราฟก็จะเปลี่ยนตามครับ

ที่ B2 พิมพ์สูตร =IF(ISTEXT($A2), SUBSTITUTE($A2,LEFT($A2,FIND("/",$A2,4)-1),MID($A2,FIND("/",$A2)+1,3)&LEFT($A2,FIND("/",$A2)-1))*1 ,$A2) แล้วคัดลอกสูตรลงมาถึง B4 ที่ C2 พิมพ์สูตร =B2 แล้วคัดลอกสูตรลงมาถึง C4 B2:B4 จัดรูปแบบเป็น Date เช่น d-mmm-yyyy C2:C4 จัดรูปแบบ...

ถ้าจะให้รันต่อเนื่องอัตโนมัติ จะต้องมีตารางเลขที่ใบเสร็จ แยกต่างหากไว้ เพื่อให้มีการนับและบวกเพิ่มค่าขึ้นไป ซึ่งการเพิ่มค่าจะต้องใช้ VBA ช่วย ซึ่งคุณต้องเข้าใจและเขียนมาเองก่อนตามกฏข้อ 5

:D ลองตามนี้ครับ ที่ D4 คีย์ =(C4*1000)/60000/24 แล้วจัดรูปแบบเซลล์เป็น Time จากนั้นคัดลอกลงมา ขอบคุณครับท่าน bank9597 :) แต่ที่ต้องการยังไม่ใช่แบบนี้ครับ ผมได้ส่งคำตอบที่ต้องการ (นั่งกะระยะเวลาเอาเองว่าน่าจะวิ่งกี่ชั่วโมง) ยกตัวอย่าง D23 ระยะทาง 110 กม. ถ้าตั้งความเร็วรถว่าต้องวิ่ง 60 กม./ชม. ก็จะ...

ที่จัดรูปแบบไม่ได้ เพราะคอลัมน์ O ไม่ใช่วันที่ (ในแบบที่ Excel รู้จัก) น่ะซิครับ ดังนั้น จึงใช้ฟังก์ชัน DAY, MONTH, YEAR ไม่ได้ เพราะข้อมูลในคอลัมน์ O เป็น Text ไม่ใช่ Date จะต้องใช้ฟังก์ชันด้าน Text ดังนี้ G4 =LEFT(O4,FIND(" ",O4)-1) H4 =MID(O4,FIND(" ",O4)+1,LEN(RIGHT(O4,LEN(O4...

http://it-for-hr.blogspot.com/2010/08/sumif.html รูปแบบประมาณนี้ครับ จากรูป ในลิงค์ที่คุณให้มานั้น ตารางข้อมูลเป็นแบบฐานข้อมูล (Database) เรียงต่อเนื่องกันลงมา การนับจำนวนในกรณีนั้นจึงต้องกำหนดเป็น 2 เงื่อนไข แต่ข้อมูลที่คุณทำ คุณแบ่งตารางแยกคอลัมน์เป็นวันอยู่แล้ว ใช้สูตรเดิมก็ได้ผลถูกต้องแล้วเช่นก...

แล้วจะให้เอาคำตอบไปใส่ตรงไหน? อย่างไรครับ?
เพราะในตัวอย่าง ก็เห็นตารางทั้งปี ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าวันไหนหยุด หรือทำการ

เท่าที่ดูจากสูตรในไฟล์แนบ ก็เห็นว่าได้คำตอบตามที่ถามแล้ว ไม่ทราบว่ายังต้องการอะไรอีก?

sheet งานเดียวกัน แต่พอเลื่อนมาหน้าถัดไปต้องทำเป็นตารางค่ะ แล้วอยากย่อ/ขยาย ตารางให้ตรงกับความต้องการ แต่งานหน้าอื่นก็จะเลื่อนด้วย มีวิธีให้เลื่อนเฉพาะแผ่นงานนั้นๆ ได้มั้ยคะ :lol: แบบง่ายๆ ก็ทำแยกกันคนละแผ่นงานครับ ส่วนแบบ(ยุ่ง)ยาก ก็ต้องเอาทุกตารางงานที่จะทำมาพิจารณาถึงจำนวนคอลัมน์ ความกว้างคอลัมน...

ลองทำไฟล์ตัวอย่างแนบมา พร้อมทั้งใส่รูปแบบคำตอบที่ต้องการมาด้วยครับ จะได้เปรียบเทียบกันได้

หรือลองปรับตารางงานที่ทำสักเล็กน้อย เช่น คีย์ในเซลนึง (A1) แล้วให้แสดงผลในอีกเซลนึง (B1) โดยในเซล B1 พิมพ์สูตร =UPPER(A1)