Auto Filter > Custom ใน excel 2003

[fonrinn]

สวัสดีค่ะ คุณคนควน
อยากทราบว่า จะมีวิธีการไหนที่จะทำให้เราสามารถใช้คำสั่ง Auto Filter > Custom
ให้สามารถ Filter ได้มากกว่า 2 คำสั่งที่มีใน excel 2003 ไหมคะ?

และขอขอบคุณในคำตอบของกระทู้ที่ผ่านมาด้วยนะคะ

[snasui]

ช่วยยกตัวอย่างเพิ่มเติมอีกนิดครับว่า 2 คำสั่งนั้นมีอะไรบ้าง สำหรับการ Filter หลายเงื่อนไขสามารถใช้ Advanced Filter ได้ครับ

[fonrinn]

มาส่งตัวอย่างค่ะ
ขอโทษทีค่ะ ที่หายไปนานมาก

มีคำถามและตัวอย่างเพิ่มเติมใน sheet3 ด้วยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ ^^

[snasui]

ทำทีละขั้นตอนก่อนนะครับ

ผมดูที่ Sheet1 แล้วพบว่าข้อมูลยังไม่ถูกจัดเก็บเป็น Database เนื่องจากมีบรรทัดว่างจำนวนมาก ผมเลยลบบรรทัดว่างเหล่านั้นทิ้งไปก่อนแล้วไป Lookup เอา Category มาเพิ่มอีก 1 คอลัมน์ แต่พบว่าบางค่าติด #N/A ช่วย Clear ค่านี้ในไฟล์แนบด้วยครับว่ามันเป็น Category อะไร จะได้ดำเนินการต่อ

[fonrinn]

แก้ไขให้แล้วค่ะ ^^

[snasui]

แก้ไขให้แล้วค่ะ คาดว่าอาจจะเพราะเป็น / เลยมองเห็นเป็น text(รึเปล่า) จึงไม่ยอมอ่านค่า
เลยแก้ไข S ID ที่เป็น - ให้เป็นค่า 0 ด้วยค่ะ (เผื่อ - จะทำให้ error อีก)
และไม่ทราบว่าบรรทัดว่างที่ลบไปนั้น จะมีปัญหาในการ count ของ S ID และ S NO หรือเปล่าคะ?
เพราะบางคอมลัมภ์จะถูก merge ในส่วนของ ID, Name, Accept, Finish, Date, Node ไว้น่ะค่ะ
เข้าใจว่าเพื่อให้มองเห็นว่า S ID, S NO เป็น ID Name เดียวกันหรือไม่

1. สำหรับ Category สถานะเป็น Text อยู่แล้วครับ ที่หาไม่เจอเพราะว่าข้อความไม่เหมือนกัน
2. การแก้หรือไม่แก้ S ID จาก - เป็น 0 น่าจะไม่ใช่สาเหตุของการ Error ครับ
3. ใน Database จะต้องไม่มีการ Merge เซลล์ครับ ข้อมูลจะต้องเรียงต่อกันทุกบรรทัด ถ้าต้องการใช้งานทุกบรรทัดจะต้องเติมช่องว่างเดิมที่เว้นไว้ให้เต็ม การเติมข้อมูลคือเติมให้เหมือนบรรทัดด้านบน การนับของโปรแกรมจะนับจำนวนครั้งที่ปรากฎของข้อมูลครับ

ถามต่อครับ
1. ตาราง B5:Q8 ใน Sheet3 สัมพันธ์กับ ข้อมูลใน Sheet1 หรือไม่ครับ
2. ถ้าข้อ 1 ตอบว่าสัมพันธ์กัน สามารถดึงข้อมูล Created, CP, Worker, Date, Type มาใส่ในตารางที่ Sheet1 ได้หรือไม่

[fonrinn]

ตอบค่ะ
1. เป็นข้อมูลสัมพันธ์กันค่ะ โดยเอามาตัดแปะ ให้เกิดเป็นตารางขึ้นมา
2. ดึงได้ค่ะ ^^

[snasui]

ตอบค่ะ
1. เป็นข้อมูลสัมพันธ์กันค่ะ โดยเอามาตัดแปะ ให้เกิดเป็นตารางขึ้นมา
2. ดึงได้ค่ะ ^^

เมื่อข้อมูลสัมพันธ์กันและดึงมาได้ก็ให้ดึงมาไว้ด้วยกันเพื่อให้เป็น Database ครับ ก็สามารถใช้ PivotTable สรุปข้อมูลได้ไม่ยาก

ข้อมูลใดที่เกี่ยวข้องกันก็ให้เพิ่มคอลัมน์ใน Database แล้วใช้ฟังก์ชั่นประเภท Lookup ดึงข้อมูลมาแสดง เหมือนที่ผมทำตัวอย่างมาให้ จากนั้นค่อยสรุปข้อมูลด้วย PivotTable จาก Database

การไปทำ Database โดยไปตัดแปะใหม่ให้อยู่ในรูปรายงานแล้วค่อยทำ PivotTable นั้น อาจจะทำให้ไม่เหมาะที่นำมาทำ PivotTable แต่หากตัดแปะแล้วอยู่ในรูป Database ก็สามารถใช้ PivotTable สรุปข้อมูลได้ง่ายเช่นกัน

ตัวอย่างการนับข้อมูล Node ว่าแต่ละ Category มีจำนวนเท่าไร ตามภาพด้านล่างครับ สามารถประยุกต์เพิ่ม-ลด Field ใน PivotTable, ดูข้อมูลในมิติต่าง ๆ โดยการลากไปลากมา ถ้าลากผิดก็สามารถลากทิ้ง หรือ Undo แล้วลากใหม่ได้ตามต้องการครับ

[fonrinn]

ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ

และขอถามเพิ่มเติมค่ะ
มีสูตรหรือวิธีการใดไหมคะ ที่จะ นับข้อมูลที่ซ้ำกันให้เหลือแค่ข้อมูลที่ไม่ซ้ำออกมา
เพราะใน 1 งานนั้น ไม่ได้มีเพียง 1 sID หรือ 1 sNo
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่าเมื่อจำนวน row ในแต่ละงานมีจำนวนไม่เท่ากัน
จะใช้วิธีใดหรือสูตรใดกำหนดได้บ้างว่า
ต้องการให้ excel นับจำนวนของ sID และ SNo ที่ไม่ซ้ำของช่วง row ของงานที่ต้องการ


3. ใน Database จะต้องไม่มีการ Merge เซลล์ครับ ข้อมูลจะต้องเรียงต่อกันทุกบรรทัด ถ้าต้องการใช้งานทุกบรรทัดจะ ต้องเติมช่องว่างเดิมที่เว้นไว้ให้เต็ม การเติมข้อมูลคือเติมให้เหมือนบรรทัดด้านบน การนับของโปรแกรมจะนับจำนวนครั้งที่ปรากฎของข้อมูลครับ

หากลองทำให้ไม่มีการ merge cell แล้ว ลองทำ pivot ดู
จะต้องเลือกคำสั่งใดในการใน count sID sNo ของงานที่ไม่ซ้ำออกมา

[snasui]

สำหรับการใช้สูตร สามารถใช้สูตร Array ได้ครับ ซึ่งจะต้องกดให้รับสูตรด้วย Ctrl+Shift+Enter โดยต้องกดพร้อมกัน หากกดแป้นถูกต้องจะเห็นเครื่องหมายปีกกาคร่อมสูตร ปีกกานี้จะีีคีย์เข้าไปเองไม่ได้ครับ

ผมทำตัวอย่างมาให้ดูตามไฟล์แนบ ซึ่งจะต้องปรับ Data เสียใหม่ คือ เอาคอมม่าและดอกจันออกไป จากนั้นค่อยเขียนสูตรที่ J1

=SUM(IF(MATCH(C2:C101&D2:D101,C2:C101&D2:D101,0)=ROW(C2:C101)-ROW(C2)+1,1))

Ctrl+Shift+Enter

หากต้องการนับด้วย PivotTable เพื่อให้ง่าย ก็ให้เป็นมาอีก 1 คอลัมน์ เพื่อนำ 2 คอลัมน์นี้มาเชื่อมกันก่อน เช่น

1. แทรกคอลัมน์ E เีขียนหัวคอลัมน์ตามต้องการ
2. ที่ E2 คีย์ =C2&D2 > Copy ลงด้านล่าง
3. จากนั้นแล้วค่อยทำ PovotTable เพื่อจะนับว่ามีข้อมูลในคอลัมน์ E ที่ไม่ซ้ำเท่ากับเท่าไรด้วยวิธีการใช้ PivotTable ตามตัวอย่างในรูปที่ให้ไว้ด้านบน