Snasui Excel Forum

แนบไฟล์มาให้แล้วครับ

ปัญหากรณี ก2
1. ช่อง R15 ต้องได้ 12 วัน ได้จาก ช่อง O17 - P12 เกิดจาก S17 ไม่มี "รหัสไม่มีใน inm1" จึงต้องหาไปอีกบรรทัดเมือพบ S17 มี "รหัสมีใน inm1"
จึงได้นำวันทีช่อง O17 มาใช้

ที่อธิบายมานั้นไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขเดิม ช่วยทบทวนใหม่ครับ

P12 เกี่ยวข้องกับ ก2 อย่างไรครับ

snasui wrote:

ปัญหากรณี ก2
1. ช่อง R15 ต้องได้ 12 วัน ได้จาก ช่อง O17 - P12 เกิดจาก S17 ไม่มี "รหัสไม่มีใน inm1" จึงต้องหาไปอีกบรรทัดเมือพบ S17 มี "รหัสมีใน inm1"
จึงได้นำวันทีช่อง O17 มาใช้

ที่อธิบายมานั้นไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขเดิม ช่วยทบทวนใหม่ครับ

P12 เกี่ยวข้องกับ ก2 อย่างไรครับ

P 12 พิมพ์ผิดครับ

ทบทวนใหม่ครับ

1. ช่อง R15 ต้องได้ 12 วัน ได้จาก ช่อง O17 - P15 เกิดจาก S16 = "รหัสไม่มีใน inm1" จึงต้องหาไปอีก
บรรทัดเมือพบ S17 มี "รหัสมีใน inm1" จึงได้นำวันทีช่อง O17 มาใช้

จากสูตรเดิมที่ทำนั้น มีปัญหาที่ ก2 อย่างเดียว คือ

R15 ={=IF(AND(S15=IF(COUNT(SEARCH($L$2:$L$15,Q15))>0,"รหัสมีใน inm1",0),N15=N16,S15=S16),DAYS(O16,P15),0)}

เมื่อพบ S15 มี "รหัสมีใน inm1" บรรทัดต่อไป S16 = "รหัสไม่มีใน inm1" (ไม่ใช้) และไปใช้
บรรทัดต่อไป S17 = "รหัสมีใน inm1"
จะปรับสูตรไหนให้ครอบคลุม เงื่อนไขข้างต้นครับ

ขอบคุณครับ

เซลล์ R2 ปรับสูตรเป็นด้านล่างครับ

=IF(OR(S2="รหัสไม่มีใน inm1",COUNTIF($N$2:N2,N2)=1,MAX(IF(N$2:N2=N2,IF(S$2:S2<>"รหัสไม่มีใน inm1",O$2:O2)))=0,MAX(IF(N$1:N1=N2,IF(S$1:S1<>"รหัสไม่มีใน inm1",P$1:P1)))=0),0,MAX(IF(N$2:N2=N2,IF(S$2:S2<>"รหัสไม่มีใน inm1",O$2:O2)))-MAX(IF(N$1:N1=N2,IF(S$1:S1<>"รหัสไม่มีใน inm1",P$1:P1))))

Ctrl+Shift+Enter > Copy ลงด้านล่าง

คำตอบ 12 จะอยู่ที่เซลล์ R17

เนื่องจากค่าในคอลัมน์ S มีการวรรค 2 วรรค แต่สูตรในคอลัมน์ R นั้นได้เว้นวรรคเพียงวรรคเดียวเท่านั้น

ส่วนสูตรที่เขียนมาเองมีข้อจำกัดในการขยับไปหาค่าที่ต้องการเนื่องจากเงื่อนไขที่ใช้มีความซับซ้อนกว่าที่จะใช้สูตรเช่นนั้นครับ

snasui wrote: เซลล์ R2 คีย์สูตร

=IF(OR(S2="รหัสไม่มีใน inm1",COUNTIF($N$2:N2,N2)=1,MAX(IF(N$2:N2=N2,IF(S$2:S2<>"รหัสไม่มีใน inm1",O$2:O2)))=0,MAX(IF(N$1:N1=N2,IF(S$1:S1<>"รหัสไม่มีใน inm1",P$1:P1)))=0),0,MAX(IF(N$2:N2=N2,IF(S$2:S2<>"รหัสไม่มีใน inm1",O$2:O2)))-MAX(IF(N$1:N1=N2,IF(S$1:S1<>"รหัสไม่มีใน inm1",P$1:P1))))

Ctrl+Shift+Enter > Copy ลงด้านล่าง

snasui wrote: เซลล์ R2 ปรับสูตรเป็นด้านล่างครับ

=IF(OR(S2="รหัสไม่มีใน inm1",COUNTIF($N$2:N2,N2)=1,MAX(IF(N$2:N2=N2,IF(S$2:S2<>"รหัสไม่มีใน inm1",O$2:O2)))=0,MAX(IF(N$1:N1=N2,IF(S$1:S1<>"รหัสไม่มีใน inm1",P$1:P1)))=0),0,MAX(IF(N$2:N2=N2,IF(S$2:S2<>"รหัสไม่มีใน inm1",O$2:O2)))-MAX(IF(N$1:N1=N2,IF(S$1:S1<>"รหัสไม่มีใน inm1",P$1:P1))))

Ctrl+Shift+Enter > Copy ลงด้านล่าง

คำตอบ 12 จะอยู่ที่เซลล์ R17

เนื่องจากค่าในคอลัมน์ S มีการวรรค 2 วรรค แต่สูตรในคอลัมน์ R นั้นได้เว้นวรรคเพียงวรรคเดียวเท่านั้น

ส่วนสูตรที่เขียนมาเองมีข้อจำกัดในการขยับไปหาค่าที่ต้องการเนื่องจากเงื่อนไขที่ใช้มีความซับซ้อนกว่าที่จะใช้สูตรเช่นนั้นครับ

อาจารย์ สูตรที่ให้มาล่าสุดไปซ้ำกับสูตรก่อนหน้านี้ที่ อาจารย์ให้มาครับ

ปรับแล้วคำตอบ R17 ไม่ได้ 12 ครับ

สรุปคำตอบ R2:R18 ทีถูกต้องครับ มีดังนี้

R2 = 0
R3 = 2
R4 = 12
R5 = 0
R6 = 2
R7 = 14
R8 = 1
R9 = 0
R10 = 3
R11 = 0
R12 = 0
R13 = 0
R14 = 0
R15 = 0
R16 = 0
R17 = 12
R18 = 2

ขอบคุณครับ

สาระสำคัญอยู่ที่บรรทัดนี้ครับ

snasui wrote:เนื่องจากค่าในคอลัมน์ S มีการวรรค 2 วรรค แต่สูตรในคอลัมน์ R นั้นได้เว้นวรรคเพียงวรรคเดียวเท่านั้น

หาก Copy สูตรจากความเห็นผมไปแล้วได้ค่าเท่าเดิม ควรจะตรวจสอบค่าวรรคในสูตร คำว่า "รหัสไม่มีใน inm1" ในสูตรจะเคาะวรรค 2 วรรคเพื่อให้เท่ากับค่าในคอลัมน S เพราะในคอลัมน์ S มีการวรรคไปสองวรรค

ภาพด้านล่างนี้คือสูตรและคำตอบที่ถูกต้องครับ

snasui wrote: สาระสำคัญอยู่ที่บรรทัดนี้ครับ

snasui wrote:เนื่องจากค่าในคอลัมน์ S มีการวรรค 2 วรรค แต่สูตรในคอลัมน์ R นั้นได้เว้นวรรคเพียงวรรคเดียวเท่านั้น

หาก Copy สูตรจากความเห็นผมไปแล้วได้ค่าเท่าเดิม ควรจะตรวจสอบค่าวรรคในสูตร คำว่า "รหัสไม่มีใน inm1" ในสูตรจะเคาะวรรค 2 วรรคเพื่อให้เท่ากับค่าในคอลัมน S เพราะในคอลัมน์ S มีการวรรคไปสองวรรค

ภาพด้านล่างนี้คือสูตรและคำตอบที่ถูกต้องครับ

ขอบคุณครับอาจารย์ ผมอ่านไม่ถี่ถ้วนเองครับ ลองสูตรแล้วได้ตามต้องการครับ

เรียนอาจารย์และเพื่อนสมาชิก

มีคำถามเพิ่มเติมใน คอลัมน์ J ตั้งแต่ J2:J18 ให้นับเดือนย้อนหลัง คือ เดือนที่ 10
ตามตัวอย่างต่อไปนี้

ก1 มีเดือนย้อนหลัง in ที่เซล E3 และ out ที่เซล F2 ในเดือน 10 นับ 1 รายการ
ที่ J3=1
ก1 มีเดือนย้อนหลัง in ที่เซล E4 และ out ที่เซล F3 ในเดือน 10 นับ 1 รายการ
ที่ J4=1
ข1 มีเดือนย้อนหลัง in ที่เซล E6 และ out ที่เซล F5 ในเดือน 10 นับ 1 รายการ
ที่ J6=1
ข1 มีเดือนย้อนหลัง in ที่เซล E7 และ out ที่เซล F6 ในเดือน 10 นับ 1 รายการ
ที่ J7=1

เงื่อนไขยังสัมพันธ์กับ คอลัมน์ H ที่ใช้สูตรได้ตามเงื่อนไขไปแล้ว
คือหากไม่ตรงเงื่อนไขในสูตร คอลัมน์ H ก็ไม่นับรายการครับ

ขอบคุณครับ

ช่วยให้นิยามคำว่า "ย้อนหลัง" ว่าพิจารณาอย่างไรจึงจะถือว่าย้อนหลังหรือไม่ย้อนหลังครับ

snasui wrote: ช่วยให้นิยามคำว่า "ย้อนหลัง" ว่าพิจารณาอย่างไรจึงจะถือว่าย้อนหลังหรือไม่ย้อนหลังครับ

ผมมีข้อมูลอยู่ 2 เดือน คือให้เดือน 10 เป็น อดีต และเดือน 11 เป็นเดือนปัจจุบัน
เงื่อนไขนั้น เดือน 10 จึงเป็นเดือนย้อนหลัง และต้องเข้าสัมพันธ์กับคอลัมน์ H
การเข้าเงื่อนไขต้องมีเดือน 10 ในตอลัมน์ E , F และคอลัมน์ H จะเป็นจำนวนวันน้อยกว่า 28 วัน ให้นับ 1

ขอถามอีกกรณี ถ้าผมมีข้อมูลที่ใช้จำนวน 3 เดือน เช่น เดือน 10 , 11 , 12 แล้วต้องการให้นับเฉพาะเดือน 11
โดยมีเงื่อนไขว่ามีเดือน 11 ในตอลัมน์ E , F และคอลัมน์ H จะเป็นจำนวนวันน้อยกว่า 28 วัน ให้นับ 1

ขอบคุณครับ

ตัวอย่างสูตร J2 คีย์

=IFERROR(AND(I2="รหัสมีใน inm1",I3="รหัสมีใน inm1",MONTH(E2)=MONTH(F1),MONTH(F1)=10)+0,0)

Enter > Copy ลงด้านล่าง

กรณีเดือนย้อนหลังไม่ใช่ 10 ให้เปลียนเลข 10 เป็นเลขใด ๆ ตามต้องการครับ

snasui wrote: ตัวอย่างสูตร J2 คีย์

=IFERROR(AND(I2="รหัสมีใน inm1",I3="รหัสมีใน inm1",MONTH(E2)=MONTH(F1),MONTH(F1)=10)+0,0)

Enter > Copy ลงด้านล่าง

กรณีเดือนย้อนหลังไม่ใช่ 10 ให้เปลียนเลข 10 เป็นเลขใด ๆ ตามต้องการครับ

ขอบคุณครับ ได้ตามที่ต้องการครับ