Page 1 of 1
การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Sat Dec 13, 2014 5:47 pm
by Totem

เรียน อาจารย์และเพื่อนสมาชิก
ผมเขียนสูตรแล้วยังไม่ครอบคลุมหลักเกณฑ์ทั้งหมด ช่วยปรับสูตรหรือมีสูตรอื่นที่เหมาะสมได้ผลตามต้องการ
โดยทีหลักเกณฑ์ดังนี้
1.ถ้าทำงานต่ำกว่า 6 เดือนในรอบปีเริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค.56 ถึง 1 ม.ค.57 ไม่ได้ค่าตอบแทน
ไม่ต้องคำนวณ
2.ทำงานตั้งแต่ 6 เดือนแต่ไม่เกิน 1 ปี เฉลี่ยเป็นวันโดยหารจำนวนปี
ตัวอย่าง ถ้าได้ 90%ขึ้นไป คูณ 1.50 วิธีคิด =1000*.1.5*จำนวนวันที่ทำงานไม่เกิน 1 ปี/365
3.ทำงานเกิน 1 ปีคิดค่าตอบแทนตามปกติ (ไม่ต้องเฉลี่ยเป็นวันและหารจำนวนปี)
ตัวอย่าง ถ้าได้ 90% คูณ 1.50 วิธีคิด =1000*.1.5
4. กรณีย้ายมา ใช้วิธีคำนวณตาม ข้อ2 และให้นับตั้งแต่วันที่ย้ายมาเป็นวันที่เริ่มทำงาน (หลักเกณฑ์ 6 เดือนไม่นำมาใช้)
5.กรณีลาออก ใช้วิธีคำนวณตาม ข้อ2 (หลักเกณฑ์ 6 เดือนไม่นำมาใช้)
สูตรที่ยังไม่ได้ตามต้องการ
Code: Select all
=IF(IF(AND(F3>=90,J3>180),(C3*1.5),IF(AND(F3>=75,J3>180),(C3*1.4),IF(AND(F3>=60,J3>180),(C3*0.75)))),IF(AND(F3>=90,J3>180),(C3*1.5),IF(AND(F3>=75,J3>180),(C3*1.4),IF(AND(F3>=60,J3>180),(C3*0.75)))),IF(AND(F3>=90,J3<180),(C3*1.5*(J3/$R$2)),IF(AND(F3>=75,J3<180),(C3*1.4*(J3/$R$2)),IF(AND(F3>=60,J3<180),(C3*0.75*(J3/$R$2))))))
ต้องการให้ ช่อง G3:G17 ครอบคลุมหลักเกณฑ์ทางด้านขวาทั้งหมด
ตัวเลขที่ถูกต้องได้ใส่ไว้ให้แล้วในไฟล์แนบ
ขอบคุณครับ
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Sat Dec 13, 2014 6:40 pm
by snasui

เมื่อเงื่อนไขคิดเป็นเดือนก็ต้องหาเดือนการทำงานออกมาด้วย จะได้สะดวกในการใช้สูตร ดูจากคอลัมน์ K ตามไฟล์แนบ และระบุค่าตอบแทนไว้ที่ E19:G23
ไม่ว่าย้ายหรือลาออกก็ให้วันเริ่มทำงานอยุ่ที่คอลัมน์ I เหมือนกันทั้งหมด เพียงแต่มีการหมายเหตุไว้ในคอลัมน์ L
ตัวอย่างการคิดค่าตอบแทนอยู่ที่คอลัมน์ G ซึ่งอันนี้ผมตั้งต้นให้ก่อนตามที่อธิบายมา หากเซลล์ใดต้องการคำตอบเป็นเท่าใด ด้วยเงื่อนไขใด ให้แจ้งมาโดยละเอียดอีกครั้ง จะได้ช่วยดูต่อไปจากนั้นครับ
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Sat Dec 13, 2014 9:41 pm
by Totem
snasui wrote:
เมื่อเงื่อนไขคิดเป็นเดือนก็ต้องหาเดือนการทำงานออกมาด้วย จะได้สะดวกในการใช้สูตร ดูจากคอลัมน์ K ตามไฟล์แนบ และระบุค่าตอบแทนไว้ที่ E19:G23
ไม่ว่าย้ายหรือลาออกก็ให้วันเริ่มทำงานอยุ่ที่คอลัมน์ I เหมือนกันทั้งหมด เพียงแต่มีการหมายเหตุไว้ในคอลัมน์ L
ตัวอย่างการคิดค่าตอบแทนอยู่ที่คอลัมน์ G ซึ่งอันนี้ผมตั้งต้นให้ก่อนตามที่อธิบายมา หากเซลล์ใดต้องการคำตอบเป็นเท่าใด ด้วยเงื่อนไขใด ให้แจ้งมาโดยละเอียดอีกครั้ง จะได้ช่วยดูต่อไปจากนั้นครับ

เงื่อนไขการคิดเป็นวัน นั้น เป็นสูตรที่หน่วยงานต้องการคำนวณเป็นวันครับ
ที่ระบายสีฟ้า คอลัมน์ G ต้องการได้คำตอบตามนี้ครับ
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Sat Dec 13, 2014 10:19 pm
by snasui

จะคิดเป็นวันหรือหน่วยอื่นก็ไม่มีปัญหาครับ สูตรที่ผมใช้ก็คิดเป็นวันออกมาให้ด้วยเช่นกัน แต่กรณีนี้
ใช้เดือนเป็นเงื่อนไข จึงควรจะมีการคิดเป็นเดือนออกมาให้ได้ก่อนเหมือนที่ผมทำมาเป็นตัวอย่าง
จากที่อธิบายมานั้นผมยังไม่กระจ่าง ช่วยคิด G3 ออกมาให้เห็นว่าได้ค่าเท่าใด ด้วยเหตุใดจึงได้ค่าเท่านั้น ให้เขียนบรรยายมาแทนเขียนมาเป็นสูตร จะได้สะดวกในการทำความเข้าใจครับ
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Sat Dec 13, 2014 10:47 pm
by Totem
snasui wrote:
จะคิดเป็นวันหรือหน่วยอื่นก็ไม่มีปัญหาครับ สูตรที่ผมใช้ก็คิดเป็นวันออกมาให้ด้วยเช่นกัน แต่กรณีนี้
ใช้เดือนเป็นเงื่อนไข จึงควรจะมีการคิดเป็นเดือนออกมาให้ได้ก่อนเหมือนที่ผมทำมาเป็นตัวอย่าง
จากที่อธิบายมานั้นผมยังไม่กระจ่าง ช่วยคิด G3 ออกมาให้เห็นว่าได้ค่าเท่าใด ด้วยเหตุใดจึงได้ค่าเท่านั้น ให้เขียนบรรยายมาแทนเขียนมาเป็นสูตร จะได้สะดวกในการทำความเข้าใจครับ

ที่ G3 เริ่มทำงาน 1 มิ.ย.53 จนถึง 1 มกราคม 57 ดูในส่วนที่เขาทำงานครบรอบการคิดคำนวณในรอบปีที่กำหนด คือเริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2556 ถึง 1 มกราคม 2557 เขายังทำงานจนถึง 1 มกราคม 57 (เงินค่าตอบแทนจะให้ต้องทำงานอยู่่ในช่วงตั้งแต่ 1 มกราคม 2556 ถึง 1 มกราคม 2557) ฉะนั้นอยู่ครบช่วงปีที่กำหนด จะได้รับเงินดังนี้ คะแนนเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ 90.50 ได้ 1.5 เงินเดือนของเขา ณ วันที่ 1 มกราคม 57 จำนวน 1000 บาท คูณ 1.5 เขาจะได้รับรวมเป็นเงินทั้งหมด 1500 บาท ครับ
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Sat Dec 13, 2014 10:51 pm
by snasui

ผมทำตัวอย่างมาให้ใหม่ตามไฟล์แนบ ลองศึกษาดูก่อน ติดตรงไหนค่อยถามกันต่อครับ
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Sat Dec 13, 2014 11:43 pm
by Totem
snasui wrote:
จะคิดเป็นวันหรือหน่วยอื่นก็ไม่มีปัญหาครับ สูตรที่ผมใช้ก็คิดเป็นวันออกมาให้ด้วยเช่นกัน แต่กรณีนี้
ใช้เดือนเป็นเงื่อนไข จึงควรจะมีการคิดเป็นเดือนออกมาให้ได้ก่อนเหมือนที่ผมทำมาเป็นตัวอย่าง

อ่านสูตรที่อาจารย์เขียนให้เข้าใจแล้วครับ ว่าคิดเป็นวันออกมาได้เช่นกัน ขอบคุณครับ
snasui wrote:
ผมทำตัวอย่างมาให้ใหม่ตามไฟล์แนบ ลองศึกษาดูก่อน ติดตรงไหนค่อยถุามกันต่อครับ

จะลองไปปรับใช้ดูก่อน หากติดปัญหาจะมาถามอีกครั้งครับ ขอบคุณครับ
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Sun Dec 14, 2014 5:53 pm
by Totem

ขอเพิ่มสูตรการลบวันลาป่วยและวันลากิจ
เมื่อได้จำนวนเดือนที่ทำงาน คอลัมน์k แล้วก่อนคำนวณค่าตอบแทน ให้ลบลาป่วยและลากิจ
จำนวนวันทำงานสุทธิ = เดือนที่ทำงาน - (ลาป่วย+ลากิจ)
ขอบคุณครับ
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Sun Dec 14, 2014 5:57 pm
by snasui

ก่อนหน้านี้ได้คำตอบที่ถูกต้องแล้วยังครับ หากยังต้องทำให้ถูกต้องเสียก่อนที่จะถามคำถามอื่น ๆ ครับ
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Sun Dec 14, 2014 6:21 pm
by Totem
snasui wrote:
ก่อนหน้านี้ได้คำตอบที่ถูกต้องแล้วยังครับ หากยังต้องทำให้ถูกต้องเสียก่อนที่จะถามคำถามอื่น ๆ ครับ

ขอโทษทีครับ จะไปเช็คดูก่อนครับ
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Sun Dec 14, 2014 6:44 pm
by Totem

เรียนอาจารย์
จากที่ทดสอบแล้วเกิดปัญหาอยู่ 2 กรณี ดังนี้
1.กรณีลาออก จะคิดค่าตอบแทนโดยนับตั้งแต่รอบวันที่ 1 มกราคม 2556 ถึงวันที่ลาออกคือ 31 ตุลาคม 2556
เป็นจำนวน 304 วัน ที่ถูกต้องช่องG8 = 1249
2.กรณีย้ายมา ที่ถูกต้องช่องG6 = 21 เพราะคิดคำนวณจากจำนวน 5 วัน และช่อง G7 ไม่ถูกต้องด้วยครับ
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Sun Dec 14, 2014 7:22 pm
by snasui
Totem wrote:1.กรณีลาออก จะคิดค่าตอบแทนโดยนับตั้งแต่รอบวันที่ 1 มกราคม 2556 ถึงวันที่ลาออกคือ 31 ตุลาคม 2556
เป็นจำนวน 304 วัน ที่ถูกต้องช่องG8 = 1249

ค่อย ๆ ถามตอบกันไปครับ
31 ตุลาคม 2556 เอามาจากไหนครับ วันที่ควรกรอกในคอลัมน์ I ไม่ว่าจะเริ่มทำงาน ย้่ายมา หรือลาออก กรอกค่าให้ถูกต้องเสียก่อนครับ หากย้ายมาหรือลาออกค่อยมาระบุข้อความในหมายเหตุ
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Mon Dec 15, 2014 9:24 am
by Totem
snasui wrote:Totem wrote:1.กรณีลาออก จะคิดค่าตอบแทนโดยนับตั้งแต่รอบวันที่ 1 มกราคม 2556 ถึงวันที่ลาออกคือ 31 ตุลาคม 2556
เป็นจำนวน 304 วัน ที่ถูกต้องช่องG8 = 1249

ค่อย ๆ ถามตอบกันไปครับ
31 ตุลาคม 2556 เอามาจากไหนครับ วันที่ควรกรอกในคอลัมน์ I ไม่ว่าจะเริ่มทำงาน ย้่ายมา หรือลาออก กรอกค่าให้ถูกต้องเสียก่อนครับ หากย้ายมาหรือลาออกค่อยมาระบุข้อความในหมายเหตุ

ผมขอแก้ไข กรณีลาออกครับ ในช่อง I8 วันที่เริ่มงานเปลี่ยนเป็น 1 มิ.ย.53 และได้ลาออกไป วันที่ 31 ต.ค.56
ได้ทำงานไปทั้งหมดจำนวน 1675 วัน
รอบการคิดคำนวณปีเริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2556 ถึง 1 มกราคม 2557 จะคิดวันตั้งแต่ 1 ม.ค.56 ถึง 31 ต.ค.56 เป็นจำนวน 304 วัน
จึงนำจำนวนวันที่ได้นี้ไปคำนวณค่าตอบแทน
ตัวอย่างอีกแบบที่สอง ถ้าวันที่เริ่มงานเป็นวันที่ 1 มิ.ย.56 และได้ลาออกไป วันที่ 31 ต.ค.56 เป็น เป็นจำนวน 153 วัน หรือ 5 เดือน
รอบการคิดคำนวณปีเริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2556 ถึง 1 มกราคม 2557 จะคิดวันตั้งแต่ 1 มิ.ย.56 ถึง 31 ต.ค.56 เป็นจำนวน 5 เดือน
จะไม่ได้ค่าตอบแทน
เพราะทำงานไม่ถึง 6 เดือน
แบบที่สาม ถ้าวันที่เริ่มงานเป็นวันที่ 1 พ.ค.56 และได้ลาออกไป วันที่ 31 ต.ค.56 เป็น เป็นจำนวน 184 วัน หรือ 6 เดือน
รอบการคิดคำนวณปีเริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2556 ถึง 1 มกราคม 2557 จะคิดวันตั้งแต่ 1 มิ.ย.56 ถึง 31 ต.ค.56 เป็นจำนวน 6 เดือน
จึงนำจำนวนวันที่ได้นี้ไปคำนวณค่าตอบแทนครับ
เพราะทำงานครบ 6 เดือนขึ้นไป
ขอเพิ่มเติมครับเพราะเกี่ยวกับการทำงานถึงหรือไม่ถึง 6 เดือน กรณีถ้าเริ่มบรรจุงานครั้งแรกในรอบการคิดคำนวณปีเริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2556
ถึง 1 มกราคม 2557 หาไม่ถึง 6 เดือน ไม่ได้รับค่าตอบแทน หากทำงานตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปได้รับค่าตอบแทน คิดคำนวณตามเดือนได้ทำงาน
จริงในรอบปีนั้น ครับ
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Tue Dec 16, 2014 7:57 am
by snasui

ช่วย Uddate วันที่ต่าง ๆ มาในไฟล์ด้วย จะได้ช่วยดูต่อไปจากนั้นครับ
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Tue Dec 16, 2014 11:02 am
by Totem
snasui wrote:
ช่วย Uddate วันที่ต่าง ๆ มาในไฟล์ด้วย จะได้ช่วยดูต่อไปจากนั้นครับ

ได้อธิบายปัญหาลงไปไฟล์ที่แนบ ที่คอลัมน์ n,o,p และคำต้องที่ถูกต้องแล้วครับ ขอบคุณครับ
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Tue Dec 16, 2014 11:16 pm
by snasui

สามารถใช้สูตรตามลำดับด้านล่างครับ
- เซลล์ O3 คีย์สูตร
=IF(N3<>"",N3-MAX(I3,"1jan2013")+1,$J$2-MAX("1jan2013",I3)+1)
Enter > Copy ลงด้านล่าง
- เซลล์ J3 คีย์
=INT((IF(N3<>"",N3,$J$2)-MAX("1Jan2013"+0,I3))/30)
Enter > Copy ลงด้านล่าง
- เซลล์ G3 คีย์
=C3*LOOKUP(F3,$E$27:$E$30,$G$27:$G$30)*IF(AND(J3<6,K3<>"ย้ายมาจากที่อื่น",N3<>""),0,O3/365)
Enter > Copy ลงด้านล่าง
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Wed Dec 17, 2014 10:22 am
by Totem
snasui wrote:
สามารถใช้สูตรตามลำดับด้านล่างครับ
- เซลล์ O3 คีย์สูตร
=IF(N3<>"",N3-MAX(I3,"1jan2013")+1,$J$2-MAX("1jan2013",I3)+1)
Enter > Copy ลงด้านล่าง
- เซลล์ J3 คีย์
=INT((IF(N3<>"",N3,$J$2)-MAX("1Jan2013"+0,I3))/30)
Enter > Copy ลงด้านล่าง
- เซลล์ G3 คีย์
=C3*LOOKUP(F3,$E$27:$E$30,$G$27:$G$30)*IF(AND(J3<6,K3<>"ย้ายมาจากที่อื่น",N3<>""),0,O3/365)
Enter > Copy ลงด้านล่าง

ขอบคุณมากครับ จากสูตรที่ให้มาใช้ได้แล้วครับ เหลือในส่วนที่
ขอเพิ่มสูตรการลบวันลาป่วยและวันลากิจ
เมื่อได้จำนวนเดือนที่ทำงาน คอลัมน์k แล้วก่อนคำนวณค่าตอบแทน ให้ลบลาป่วยและลากิจ
จำนวนวันทำงานสุทธิ = เดือนที่ทำงาน - (ลาป่วย+ลากิจ)
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Wed Dec 17, 2014 10:55 am
by snasui

ลองทำมาเองดูก่อน ติดตรงไหนค่อยถามกันต่อ สิ่งสำคัญจะต้องระบุคำตอบที่ถูกต้องมาด้วย
เรามีการคำนวณวันทำงานไว้ในคอลัมน์ O เรียบร้อยแล้ว มีวันลาไว้ในคอลัมน์ L:M ไว้แล้วเช่นกัน น่าจะหาวันทำงานสุทธิเพื่อใช้คำนวณต่อได้เองครับ
Re: การคิดค่าตอบแทนแบบมีหลักเกณฑ์
Posted: Wed Dec 17, 2014 11:22 am
by Totem
snasui wrote:
ลองทำมาเองดูก่อน ติดตรงไหนค่อยถามกันต่อ สิ่งสำคัญจะต้องระบุคำตอบที่ถูกต้องมาด้วย
เรามีการคำนวณวันทำงานไว้ในคอลัมน์ O เรียบร้อยแล้ว มีวันลาไว้ในคอลัมน์ L:M ไว้แล้วเช่นกัน น่าจะหาวันทำงานสุทธิเพื่อใช้คำนวณต่อได้เองครับ

ครับ ผมหาวันทำงานสุทธิได้เรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้ใช้ได้ครบตามที่ต้องการแล้วครับ ขอบคุณครับ