
การตัดค่าด้ายซ้ายมาตามจำนวนที่ต้องการคือคำสั่ง Left(x,y) ครับ x คือข้อความที่ต้องการตัดค่าด้านซ้ายออกมา y คือจำนวนข้อความที่ตัด ถ้าเขียน =Left("ABCD",3) จะหมายถึงตัดด้านซ้ายข้อความ ABCD มา 3 อักขระ ผลลัพธ์จะได้
ABC
เมื่อแทนค่าในสูตรด้านบน
x คือ
SUBSTITUTE(SUBSTITUTE(SUBSTITUTE(SUBSTITUTE("IT,"&A2&","&C2&","&E2&","&G2&","&I2&","&K2&","&M2&",",",,,,,",","),",,,,",","),",,,",","),",,",",") และ y คือ
LEN(A2&C2&E2&G2&I2&K2&M2)+COUNTA(A2,C2,E2,G2,I2,K2,M2)+2
สำหรับ
SUBSTITUTE(SUBSTITUTE(SUBSTITUTE(SUBSTITUTE("IT,"&A2&","&C2&","&E2&","&G2&","&I2&","&K2&","&M2&",",",,,,,",","),",,,,",","),",,,",","),",,",",")
หลักการคือให้นำข้อความ
IT, มาเชื่อมกับ A2, C2, E2, G2, I2, K2, M2 และ
, รวมทั้งหมด 9 ชุด จากนั้น เปลี่ยนเครื่องหมาย , ที่อยู่ติด ๆ กันทิ้งไป โดยเปลี่ยน
,,,,, (5 ตัว) ให้เป็น
, คือเหลือเพียงตัวเดียว และเปลี่ยนคอมม่า 4 ตัวให้เหลือเพียงตัวเดียว, เปลี่ยนคอมม่า 3 ตัวให้เหลือเพียงตัวเดียว และเปลี่ยนคอมม่า 2 ตัวให้เหลือเพียงตัวเดียว
ส่วน LEN(A2&C2&E2&G2&I2&K2&M2)+COUNTA(A2,C2,E2,G2,I2,K2,M2)+2 ความหมายของ LEN(A2&C2&E2&G2&I2&K2&M2) คือให้นับว่า A2&C2&E2&G2&I2&K2&M2 มีกี่อักขระ บวกกับผลลัพธ์ของ COUNTA(A2,C2,E2,G2,I2,K2,M2) ซึ่งเป็นการนับว่า A2,C2,E2,G2,I2,K2,M2 มีค่าใด ๆ อยู่จำนวนกี่เซลล์
สุดท้ายบวกด้วย 2 ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญ
สาเหตุหลักที่บวกด้วย 2 เนื่องจากว่าในขั้นตอนแรกเอา
IT, เข้ามาเชื่อมเข้าไปด้วย ซึ่งมีถึง 3 อักขระ ประกอบกับตัวที่สำคัญอีกตัวหนึ่งคือ
, ที่เราเชื่อมเข้าไปเป็นตัวสุดท้าย
สมมุติตัวอย่างให้ง่าย หากไม่มีข้อมูลใด ๆ ในช่อง A2,C2,E2,G2,I2,K2,M2 ผลลัพธ์จะได้
=LEFT("IT,",0+0+2) (ที่เหลือคอมม่าเพียงตัวเดียวหลัง IT เป็น
IT, เป็นผลมาจากฟังก์ชั่น Substitute) นั่นหมายความว่าตัดค่าด้านซ้ายของ IT, มาเพียง 2 อักขระ จะได้คำตอบเป็น IT