ตรวจสอบและปรับปรุงไฟล์ Excel ให้เร็วและเสถียรด้วย File Anatomy Add-in
เครื่องมือนี้ช่วยวิเคราะห์โครงสร้างไฟล์อย่างละเอียด เช่น สูตร, ลิงก์, PivotTable, Styles และ Objects
พร้อมฟังก์ชันล้างสิ่งเกินจำเป็นที่ทำให้ไฟล์ช้า หรือเสียหายได้ในคลิกเดียว
เหมาะสำหรับผู้ใช้ Excel ที่ต้องการควบคุมคุณภาพไฟล์อย่างมืออาชีพ
ทดลองใช้ Add-in
snasui.com ยินดีต้อนรับ 
สมาชิกท่านใดที่ยังไม่ได้ระบุ Version ของ Excel ที่ใช้งานจริง สามารถทำตาม Link นี้เพื่อจะได้รับคำตอบที่ตรงกับ Version ของท่านครับ 
ระบุ Version ของ Excel 
โปรดทราบ สมัครสมาชิก
Login ผ่าน Facebook Reset รหัสผ่าน ติดต่อผู้ดูแลระบบ ตั้งค่าส่วนตัว วิธีการตั้งและตอบกระทู้ จัดรูปแบบตัวอักษร กำหนดขนาดตัวอักษรใน Browser
คำแสดงเจตนา[code] และปิดด้วย [/code] ตัวอย่างเช่น [code]dim r as range[/code] เพื่อให้แตกต่างจากข้อความทั่วไป สะดวกในการอ่านและทดสอบ (คลิกเพื่อดูตัวอย่าง)
ปกติใช้สูตร Countif อยู่เพื่อแยกจำนวนในแต่ละแผนกว่ามีจำนวนเท่าใด
เงื่อนไขค่อนข้างเยอะครับ 
Merge Cells ได้ครับ แต่จะส่งผลให้ต้องใช้สูตรยากขึ้นเรื่อย ๆ สูตรอาจารย์สั้นกว่าเยอะครับ แนะนำผู้ถามสามารถใช้สูตรของอาจารย์เลยครับsnasui wrote:
ยกตัวอย่างอีกสูตรไม่ต้องปลด Merge Cells ที่ L3 คีย์
=SUMPRODUCT(--(LOOKUP(CHAR(255),$J$3:$J3)=$B$3:$B$12),--(SUBSTITUTE(L$2,"SHIFT ","")=$D$3:$D$12),--($C$3:$C$12=$K3),--($E$3:$E$12<>"ลาออก"))
Enter > Copy ไปทางขวาและลงด้านล่าง
ดีแล้วครับ ผมหาคำตอบได้ แต่ไม่รู้หรอกว่ามันถูกหลักการแค่ไหนอย่างไร อีกทั้ง เป็นอยู่แค่ไม่กี่สูตร ทำไมต้องมี lookup(char(255) ด้วยครับเพราะ ข้อความเหมือนกันsnasui wrote:กรณีใช้ Countifs สามารถใช้สูตรที่เซลล์ L3 ตามด้านล่างครับ
=COUNTIFS($B$3:$B$12,LOOKUP(CHAR(255),$J$3:$J3),$D$3:$D$12,SUBSTITUTE(L$2,"SHIFT ",""),$C$3:$C$12,$K3,$E$3:$E$12,"<>ลาออก")
Enter > Copy ไปด้านขวาและลงด้านล่าง
เนื่องจากเป็นข้อความที่ไม่ต่อเนื่องมีการเว้นเอาไว้ Lookup(Char(255),Range) จะหาข้อความตัวสุดท้ายใน Range
